เมนู

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [12. ทวาทสมวรรค] 4. สฬายตนกถา (119)
สก. เสียงเป็นวิบาก ไม่มีสุขเวทนา ฯลฯ รับรู้อารมณ์ไม่ได้ ไม่มีความนึกถึง
ฯลฯ ไม่มีความตั้งใจใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. ผัสสะเป็นวิบาก ไม่มีสุขเวทนา ไม่มีทุกขเวทนา ฯลฯ รับรู้อารมณ์ไม่ได้
ไม่มีความนึกถึง ฯลฯ ไม่มีความตั้งใจใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[637] ปร. ท่านไม่ยอมรับว่า “เสียงเป็นวิบาก” ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. พระสูตรที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า “เพราะตถาคต ได้ทำ สั่งสม
พอกพูน เพิ่มพูนกรรมนั้น ตถาคตนั้น จึงมีพระสุรเสียงดุจเสียงพรหม ตรัสดุจ
เสียงร้องของนกการเวก”1 มีอยู่จริงมิใช่หรือ
สก. ใช่
ปร. ดังนั้น เสียงจึงเป็นวิบาก
สัทโทวิปาโกติกถา จบ

4. สฬายตนกถา (119)
ว่าด้วยอายตนะ 6
[638] สก. จักขายตนะเป็นวิบากใช่ไหม
ปร.2 ใช่3
สก. จักขายตนะมีสุขเวทนา มีทุกขเวทนา ฯลฯ รับรู้อารมณ์ได้ มีความนึกถึง
ฯลฯ มีความตั้งใจใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

เชิงอรรถ :
1 ดูเทียบ ที.ปา. (แปล) 11/236/193
2 ปร. หมายถึงภิกษุในนิกายมหาสังฆิกะ (อภิ.ปญฺจ.อ. 638/263)
3 เพราะมีความเห็นว่า อายตนะที่เป็นรูปเกิดจากกรรม จึงจัดเป็นวิบาก ซึ่งต่างกับความเห็นของสกวาทีที่เห็นว่า
อายตนะที่เป็นรูป เป็นเพียงรูปธรรม เกิดจากจิตและอุตุ (ธรรมชาติ) ไม่เรียกว่าวิบาก ส่วนธรรมที่จะเรียกว่า
วิบากได้ ต้องเป็นนามธรรมล้วน (อภิ.ปญฺจ.อ. 638/263)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :696 }